พระเจนดุริยางค์
พระเจนดุริยางค์ (ปิติ วาทยะกร) ชื่อเดิม ปีเตอร์ ไฟท์ (Peter Feit - 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2426 -25 ธันวาคม พ.ศ. 2511) บุคคลสำคัญในวงการดนตรีของประเทศไทย ผู้มีส่วนร่วมสำคัญในการบันทึกเพลงไทยเดิมด้วยโน้ตเพลงสากล และเป็นผู้วางรากฐานวงดุริยางค์ทหารอากาศและวงดุริยางค์ตำรวจ
ประวัติ
พระเจนดุริยางค์เกิดที่ตำบลบ้านทวาย จังหวัดพระนคร เป็นบุตรของนายยาคอบ ไฟท์ (Jakob Feit) ชาวเยอรมันกับนางทองอยู่ ชาวไทยเชื้อสายมอญ มีภรรยาสามคนคือนางเบอร์ธา นางบัวคำและนางลิ้ม มีบุตรธิดารวมทั้งสิ้น 10 คน พระเจนฯ เริ่มเข้าเรียนหนังสือที่โรงเรียนอัสสัมชัญ บางรัก เมื่อ พ.ศ. 2433 และจบการศึกษาหลักสูตรภาษาฝรั่งเศสและภาษาอังกฤษเมื่อ พ.ศ. 2433 พระเจนฯ เริ่มเรียนดนตรีกับบิดาเมื่ออายุ 10 ขวบ ต่อจากนั้นได้ศึกษาดนตรีด้วยตนเองมาโดยตลอดจนมีความรู้และความชำนาญในการดนตรีอย่างแตกฉาน
พระเจนดุริยางค์สมัครเข้าเป็นครูโรงเรียนอัสสัมชัญเมื่อ พ.ศ. 2444 แต่ต่อมาอีก 2 ปีจึงเข้ารับราชการในกรมรถไฟหลวง ในปี พ.ศ. 2460 พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้โอนมาเป็นครูในกรมมหรสพซึ่งต่อได้โอนมาอยู่กรมศิลปากร ในตำแหน่งครูวงเครื่องสายฝรั่งหลวง และทำหน้าที่ผู้สอนวิชาดนตรีสากลให้สามัคยาจารยสมาคมและผลักดันให้วิชาขับร้อง (ด้วยโน้ต) เป็นวิชาเลือกในการสอบเลื่อนวิทยฐานะทั้งชุดของครูประถมและครูมัธยม
พระเจนดุริยางค์ได้โอนสังกัดไปสอนในวงดุริยางค์ทหารอากาศเมื่อ พ.ศ. 2483 เมื่ออายุได้ 57 ปี จนเกษียณอายุราชการ หลังเกษียณแล้วได้รับเชิญเป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัยศิลปากร และในปี พ.ศ. 2493 กรมตำรวจได้ขอยืมตัวให้ไปก่อตั้งวงดุริยางค์สากลกรมตำรวจและทำงานให้กรมตำรวจจนถึงแก่กรรมเมื่อายุได้ 85 ปี 5 เดือน
ผลงาน
ผลงานที่สำคัญของท่านนอกจากจะเป็นผู้ประพันธ์ทำนองเพลงชาติไทยแล้ว ยังเป็นผู้เรียบเรียงเสียงประสานเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง พระเจ้าช้างเผือก ซึ่งอำนวยการสร้างโดย นายปรีดี พนมยงค์อีกด้วย ด้านเพลงไทยเดิม พระเจนดุริยางค์เป็นผู้ให้ทำนองเพลงพม่ารำขวาน เพลงธรณีกรรแสง เพลงพม่าประเทศ นอกจากนี้ยังได้เรียบเรียงตำราวิชาดนตรีสากลเป็นภาษาไทย เช่นทฤษฎีการดนตรีตอนต้น การประสานเสียงเบื้องต้นรวมทั้งตำราประสานเสียง 3 เล่มจบ
พระเจนดุริยางค์ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ทวีติยาภรณ์ช้างเผือก, ทวีติยาภรณ์มงกุฏไทย, ตติยจุลจอมเกล้าวิเศษ, และเหรียญดุษฎีมาลา เข็มศิลปวิทยาแก่กรรมเมื่ออายุได้ 85 ปี 5 เดือนนายเอื้อ สุนทรสนาน
พระเจนดุริยางค์ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ทวีติยาภรณ์ช้างเผือก, ทวีติยาภรณ์มงกุฏไทย, ตติยจุลจอมเกล้าวิเศษ, และเหรียญดุษฎีมาลา เข็มศิลปวิทยาแก่กรรมเมื่ออายุได้ 85 ปี 5 เดือนนายเอื้อ สุนทรสนาน
นายเอื้อ สุนทรสนาน หรือเรียกกันว่า "ครูเอื้อ" (21 มกราคม พ.ศ. 2453 - 1 เมษายน พ.ศ. 2524) เป็นทั้งนักร้อง นักประพันธ์เพลง อาทิ เพลงถวายพระพร เพลงวันลอยกระทง เพลงปลุกใจ เพลงสดุดี เพลงประจำจังหวัด และเป็นหัวหน้าวงดนตรีสุนทราภรณ์ นอกจากนี้ยังเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้ง สมาคมดนตรีแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์อีกด้วย
เอื้อ สุนทรสนาน ได้แต่งเพลงร่วมกับแก้ว อัจฉริยกุล และท่านอื่นๆ ไว้มากมายจนนับไม่ถ้วน ซึ่งคาดว่ามีมากกว่า 2,000 เพลง มีเพลงที่เป็นที่รู้จักกัน เช่น เพลงรำวงลอยกระทง เพลงรำวงเริงสงกรานต์ เพลงนางฟ้าจำแลง เป็นต้น นอกจากนั้นยังถือได้ว่าท่านเป็นหนึ่งในผู้ที่บุกเบิกเพลงไทยสากล และได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ตติยจุลจอมเกล้าวิเศษ ในปี พ.ศ. 2518
เมื่อวันที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2550 กระทรวงวัฒนธรรม ได้เสนอ เอื้อ สุนทรสนาน ต่อองค์การยูเนสโกในวาระครบรอบ 100 ปีชาตกาลเพื่อให้เป็นบุคคลดีเด่นของโลก ซึ่งต่อมาในวันที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2552 ทางองค์การยูเนสโกก็ได้ยกย่องครูเอื้อเป็นบุคคลสำคัญของโลกสาขาวัฒนธรรมดนตรีไทยสากล
เอื้อ สุนทรสนาน เกิดเมื่อวันเสาร์ที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2453 ณ ตำบลโรงหีบ อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม บิดาชื่อ นายดี สุนทรสนาน มารดาชื่อ นางแส สุนทรสนาน มีนามเดิมว่า "ละออ" ต่อมา บิดาให้นามใหม่เป็น "บุญเอื้อ" และได้มาเปลี่ยนอีกครั้งในสมัย จอมพล ป. พิบูลสงคราม เป็น "เอื้อ" ครูเอื้อมีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน 3 คน ได้แก่
หมื่นไพเราะพจมาน (อาบ สุนทรสนาน) ต่อมาได้รับพระราชนามสกุล สุนทรสนาน จาก พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
นางปาน แสงอนันต์
นายเอื้อ สุนทรสนาน
หลังจากจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ในปี พ.ศ. 2465 พระเจนดุริยางค์เห็นว่า ครูเอื้อมีความสามารถพิเศษทางด้านดนตรี จึงให้ครูเอื้อหัดไวโอลิน และให้หัดเป่าแซ็กโซโฟนอีกอย่างหนึ่งด้วย ทั้งยังให้เปลี่ยนมาเรียนวิชาดนตรีเต็มวัน ส่วนการเรียนวิชาสามัญนั้นให้งดเรียนตั้งแต่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 เป็นต้นไป
2 ปีต่อมา ความสามารถของเอื้อก็ประจักษ์ชัดแด่คณาจารย์ทั้งหลาย จึงได้ให้เข้ารับราชการประจำ กองเครื่องสายฝรั่งหลวงในกรมมหรสพ กระทรวงวัง รับพระราชทานยศเป็น "เด็กชา" เงินเดือน 5 บาท เมื่อปี พ.ศ. 2467 กระทั่งมีความชำนาญมากขึ้นจึงได้เลื่อนขึ้นไปเล่นวงใหญ่ในปี พ.ศ. 2469 เงินเดือนเพิ่มเป็น 20 บาท และ 2 ปีต่อมาก็ได้รับพระราชทานยศ "พันเด็กชาตรี" และ "พันเด็กชาโท" ในปีถัดไป
ต่อมาในปี พ.ศ. 2475 ได้โอนไปรับราชการสังกัดกรมศิลปากร ในสังกัดกองมหรสพ และในปี พ.ศ. 2478 หลวงวิจิตรวาทการเป็นอธิบดีกรมศิลปากร เอื้อซึ่งพิสูจน์ฝีมือดนตรีจนประจักษ์ชัด เงินเดือนจึงขึ้นเป็น 40 บาท และ 50 บาทใน 2 ปีต่อมา
นอกจากนับราชการในกรมศิลปากรแล้ว เอื้อยังมีโอกาสได้ร่วมงานกับคณะละครร้อง ที่มีชื่อเสียงในยุคนั้น เช่น คณะของแม่เลื่อน ไวณุนาวิน ได้แต่งเพลง "ยอดตองต้องลม" ขึ้น นับเป็นเพลงในชีวิตการประพันธ์เพลง เพลงยอดตองต้องลมนี้ เอื้อ สุนทรสนาน ให้ทำนอง เฉลิม บุณยเกียรติ ให้คำร้อง นอกจากนี้ ในปีเดียวกันนั้นเอง เอื้อได้ขับร้องเพลง นาฏนารี คู่กับนางสาววาสนา ละออ และถือว่าเป็นเพลงแรกสุดที่ได้ขับร้องบันทึกเสียงด้วย
2 ปีต่อมา ความสามารถของเอื้อก็ประจักษ์ชัดแด่คณาจารย์ทั้งหลาย จึงได้ให้เข้ารับราชการประจำ กองเครื่องสายฝรั่งหลวงในกรมมหรสพ กระทรวงวัง รับพระราชทานยศเป็น "เด็กชา" เงินเดือน 5 บาท เมื่อปี พ.ศ. 2467 กระทั่งมีความชำนาญมากขึ้นจึงได้เลื่อนขึ้นไปเล่นวงใหญ่ในปี พ.ศ. 2469 เงินเดือนเพิ่มเป็น 20 บาท และ 2 ปีต่อมาก็ได้รับพระราชทานยศ "พันเด็กชาตรี" และ "พันเด็กชาโท" ในปีถัดไป
ต่อมาในปี พ.ศ. 2475 ได้โอนไปรับราชการสังกัดกรมศิลปากร ในสังกัดกองมหรสพ และในปี พ.ศ. 2478 หลวงวิจิตรวาทการเป็นอธิบดีกรมศิลปากร เอื้อซึ่งพิสูจน์ฝีมือดนตรีจนประจักษ์ชัด เงินเดือนจึงขึ้นเป็น 40 บาท และ 50 บาทใน 2 ปีต่อมา
นอกจากนับราชการในกรมศิลปากรแล้ว เอื้อยังมีโอกาสได้ร่วมงานกับคณะละครร้อง ที่มีชื่อเสียงในยุคนั้น เช่น คณะของแม่เลื่อน ไวณุนาวิน ได้แต่งเพลง "ยอดตองต้องลม" ขึ้น นับเป็นเพลงในชีวิตการประพันธ์เพลง เพลงยอดตองต้องลมนี้ เอื้อ สุนทรสนาน ให้ทำนอง เฉลิม บุณยเกียรติ ให้คำร้อง นอกจากนี้ ในปีเดียวกันนั้นเอง เอื้อได้ขับร้องเพลง นาฏนารี คู่กับนางสาววาสนา ละออ และถือว่าเป็นเพลงแรกสุดที่ได้ขับร้องบันทึกเสียงด้วย
สมศักดิ์ เทพานนท์
สมศักดิ์ เทพานนท์ (5 มีนาคม พ.ศ. 2467 - 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2537) นักดนตรี และนักประพันธ์คำร้องให้กับวงดนตรีกรมประชาสัมพันธ์ และสุนทราภรณ์
สมศักดิ์ เทพานนท์ มีชื่อจริงว่า สมศักดิ์ ทัพทัต เป็นบุตรของนายทองย้อย กับนางระเบียบ ทัพทัต ส่วนนามสกุล เทพานนท์ เป็นนามสกุลของคุณยาย และใช้ในวงการเพลงเท่านั้น สมศักดิ์เกิดที่ตำบลสำราญราษฎร์ ศึกษาที่โรงเรียนวัดสุทัศน์และโรงเรียนวัดสระเกศ และเข้าศึกษาต่อที่คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แต่เรียนไม่จบเพราะบิดาเสียชีวิต และไม่มีผู้ส่งเสีย จึงไปสมัครรับราชการที่กองดุริยางค์ทหารเรือ รุ่นเดียวกับสมยศ ทัศนพันธ์ เสน่ห์ โกมารชุน และสุรสิทธิ์ สัตย์วงศ์ ต่อมาย้ายไปอยู่คณะละครนิยมไทย วงดนตรีเทศบาลนครกรุงเทพ วงดนตรีดุริยะโยธินของกองทัพบกไทย
ในปี พ.ศ. 2496 ครูเวส สุนทรจามร ชวนให้มาอยู่วงดนตรีกรมประชาสัมพันธ์ ในตำแหน่งมือกลอง ต่อมาได้เป็นนักร้อง และได้แต่งเพลงร่วมกับครูเอื้อ สุนทรสนาน โดยเป็นผู้ประพันธ์คำร้อง
สมศักดิ์ เทพานนท์ได้รับรางวัลแผ่นเสียงทองคำพระราชทาน เมื่อปี พ.ศ. 2508 จากเพลง "รักเธอเสมอ" ขับร้องโดยรวงทอง ทองลั่นธม
สมศักดิ์ เกษียณอายุราชการเมื่อ พ.ศ. 2528 หลังเกษียณได้แต่งเพลงทั้งคำร้องและทำนองอีกหลายเพลง และได้รับเชิญให้ร่วมร้องเพลงกับวงดนตรี สังคีตสัมพันธ์ ของวินัย จุลละบุษปะเป็นครั้งคราว
สมศักดิ์ เทพานนท์ ป่วยเป็นโรคเบาหวาน ในระยะหลังเกิดอาการแทรกซ้อน จนเสียชีวิตเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2537 ขณะอายุได้ 70 ปี
ขอขอบคุณ Wkipedia.com
Slots - Dr. McD
ตอบลบFrom the 충청북도 출장안마 slots of 보령 출장샵 the Wilds of Vegas to the latest video slots on 군산 출장안마 Facebook! slots. The wilds. 과천 출장마사지 Slot Machine. RTP. 96.51%. Volatility. 세종특별자치 출장마사지 High volatility. Join us.